April 18, 2020

รีวิว Our House ผีกับอดีตอย่างไหนน่ากลัวกว่ากัน


ท่ามกลางกระแส “นาคี 2” ฟีเวอร์ทั่วประเทศ ส่งผลทำให้หนังสยองขวัญฟอร์มเล็กๆที่เข้าฉายในเวลาเดียวกันอย่าง Our House ถูกกลืนหายเข้ากลีบเมฆไปแล้วเรียบร้อย ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของอีธาน (โธมัส มานน์) หนุ่มนักศึกษาอนาคตไกลที่เขากำลังทำโปรเจ็ควิทยาศาสตร์ในการทดลองประดิษฐ์อุปกรณ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าในระบบไร้สาย แต่ระหว่างที่เขาพยายามทำการทดลองนั่นเอง เขากลับได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านและพบว่าพ่อและแม่ของเขาถูกรถชนเสียชีวิตคาที่ ทิ้งบรรดาลูกๆทั้งสามไว้ข้างหลัง

ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ อีธานต้องผันตัวเองมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อดูแลน้องชายคนกลางอย่างแมทท์ (เพอร์ซีย์ ไฮเนส ไวท์) และเบคก้า (เคท โมเยอร์) น้องสาวคนเล็ก แต่การก้าวมาเป็นคนดูแลครอบครัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะภาระหนี้สินละความรับผิดชอบอันหนักอึ้ง ทำให้อีธานต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย บอกเลิกกับแฟนสาว (นิโคล่า เพลท์ซ) และมาสมัครงานเป็นพนักงานในซูเปอร์มาร์เกต เท่านั้นยังไม่พอ กลางวันเขาก็ต้องสาละวนกับการไปรับไปส่งน้องๆ กลับมาทำงานและพอตกกลางคืนอีธานพายามเปลี่ยนโรงรถที่บ้าน เพื่อพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ให้สำเร็จ แต่สิ่งที่เขากำลังพัฒนาอยู่กลับไม่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางเอาไว้ เมือมันกลายเป็นเครื่องปลุกพลังงานบางอย่างขึ้นมา

ในตอนแรกสามพี่น้องเชื่อว่า พลังงานลึกลับดังกล่าวคือวิญญาณของพ่อแม่ตัวเองที่กลับมาเยี่ยมเยียนลูกๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสามกลับพบว่าวิญญาณตนนั้นไม่ใช่พ่อแม่ของพวกเขา แต่เป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญและมาพร้อมปริศนาที่อีธานต้องสืบให้พบว่าจริงๆแล้ว สิ่งประดิษฐ์ของเขานำพาอะไรมาในบ้านหลังนี้กันแน่

Our House ดำเนินเรื่องค่อนข้างเนิบช้าและสำรวจอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครอีธานและน้องๆมากกว่าจะพยายามใส่ฉากตุ้งแช่แกล้งหลอกคนดู เราจะได้เห็นสภาวะความหม่นเศร้าของอีธานในการสลัดอดีตอันแสนปวดร้าวให้พ้นไป แต่มันก็เหมือนว่าน้องชายยังคงมองว่า พี่ชายของเขาคือต้นเหตุในการเสียชีวิตของพ่อแม่ (ถ้าหากพ่อแม่พวกเขาไม่เดินทางออกไปรับอีธาน ทุกคนก็จะยังมีชีวิตปกติ) ส่วนน้องสาวคนสุดท้องก็ง่วนอยู่กับการฝึกว่ายน้ำอย่างขะมักเขม้น และในยามกลางคืนเธอเชื่อว่าพ่อและแม่ของเธอยังคงมาส่งตัวเองเข้านอนตามปกติ

No comments:

Post a Comment